วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
ทุเรียนน้ำ หรือ ทุเรียนเทศ หรือ ทุเรียนแขก หรือ หมากเขียบหลด
ทุเรียนน้ำ มีปลูกประปรายทางภาคอีสานและภาคกลาง มีขายในตลาดชนบท ทุเรียนน้ำหรือทุเรียนเทศ ไม่ใช่พืชจำพวกทุเรียนแต่เป็นน้อยหน่าขนาดยักษ์ที่มีหนามอ่อน ๆ คล้ายทุเรียน มีปลูกมากทางภาคใต้ พม่า ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศแถบร้อนชื้น เพราะชอบฝนชุกมีผลใหญ่ บางครั้งหนักกว่า ๒ กิโลกรัม ผลสุกสีเขียวปนน้ำตาลอ่อน เนื้อหวานอมเปรี้ยวมีวิตามินซีสูง นิยมคั้นน้ำดื่มชุ่มคอ แถบอเมริกากลางใช้ทุเรียนน้ำทำเหล้า เยลลี่ และขนมพื้นบ้าน
ทุเรียนน้ำ รักษามะเร็งได้จริงหรือไม่ สรรพคุณทุเรียนน้ำดีขนาดไหนกัน ทำไมจึงกลายมาเป็นสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคมาเนิ่นนานตั้งแต่โบราณ เช่นนี้
กลายเป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง สำหรับกระแสสมุนไพรต้านมะเร็ง ขจัดโรคร้ายด้วยพลังของธรรมชาติ ที่ล่าสุดก็ได้มีผลไม้อีกชนิดหนึ่งซึ่งว่ากันว่าสามารถขจัดโรคมะเร็งได้ อย่างชะงัด แถมยังออกฤทธิ์ดีกว่าการเข้ารบการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดถึง 10,000 เท่า โดยไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง ทั้งยังไม่สร้างความเสียหายต่อเซลล์สวนอื่น ๆ ในร่างกายด้วย ซึ่งผลไม้ชนิดนี้ก็คือ ทุเรียนน้ำ หรือทุเรียนเทศนั่นเอง
สำหรับ ทุเรียนน้ำ (Guyabano หรือ Sour Sop) เป็นผลไม้ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายนักในบ้านเรา มีชื่อเรียกหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียนเทศ ทุเรียนแขก หรือหมากเขียบหลด โดยทุเรียนน้ำเป็นผลไม้แถบร้อน มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาใต้ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พบได้มากทางตอนใต้ของประเทศไทย ในมาเลเซียและสิงคโปร์ และในแถบรัฐปีนังของมาเลเซียก็จะพบว่ามีการน้ำทุเรียนน้ำมาแปรรูปเป็นน้ำ ทุเรียนเข้มข้นซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากด้วย
และในการปลูกทุเรียนน้ำก็สามารถทำได้ไม่ยาก เพราะทุเรียนน้ำนั้นใช้วิธีขยายพันธุ์โดยเมล็ด ซึ่งเพียงแค่นำเมล็ดมาแช่น้ำทิ้งไว้ 1-2 วัน ก่อนนำไปเพาะเลี้ยงในดินผสมปกติ ต้นทุเรียนน้ำก็จะงอกขึ้นมาได้ภายใน 7 วัน แต่ต้นกล้าจะโตช้าและออกดอกเมื่อมีอายุไม่ต่ำกว่า 3 ปี ก่อนจะให้ผลได้ในปีที่ 4 ได้ผลผลิตประมาณปีละ 1.5 - 2 ตันต่อไร่ หรือจะใช้วิธีขยายพันธุ์แบบเสียบยอดและทาบกิ่งก็ได้ โดยต้นทุเรียนน้ำนี้จะเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนที่มีความชุ่มชื้น ระบายน้ำได้ดี ในไทยคนมักนิยมปลูกไว้เป็นไม้ประดับในบ้าน
วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556
สาเก หรือ ลูกสาเก หรือ ขนุนสำปะลอ
ต้นสาเกมีความสูงเต็มที่ได้ถึง 20 เมตร มียางขาว มีใบใหญ่และหนา ร่องใบลึกถึงก้าน ทุกส่วนของสาเกมียางมีขาวข้น ผลกลมรีคล้ายขนุน แต่ลูกเล็กกว่า เปลือกนอกสีเขียว เนื้อในสีเหลืองซีดหรือขาว มีสองพันธุ์ คือ
- พันธุ์ข้าวเหนียว ผลใหญ่ เมื่อสุกเนื้อเหนียว ไม่ร่วน นิยมปลูกเพื่อทำขนม
- พันธ์ข้าวเจ้า ผลเล็กกว่า เนื้อหยาบร่วน ไม่นิยมรับประทาน
สาเก เป็นผลไม้ที่หลายๆ คนชื่นชอบเพราะมีกลิ่มหอมน่าทาน การรับประทานนั้นจะเอามาเชื่อมแบบเราๆ ทานกันก็ได้ หรือเอามานึ่งแล้วทานแทนขนมปังก็ได้เช่นกัน ไดแอน เรโกนี ผู้อำนวยการสถาบันสาเก รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ชอบศึกษาเกี่ยวกับสาเกมาก เพราะคุณได แอนเห็นว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ เพราะสาเกนั้นช่วยแก้ปัญหาความอดอยากอาหารได้ เพราะต้นสาเกมีดอกและลูกดกมากถึง 200 ลูกในแต่ละต้น อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย จึงสามารถใช้เลี้ยงผู้คนได้มากมายในฤดูแล้ง โดยต้นสาเกมีกว่า 120 สายพันธุ์ที่มนุษย์เราปลูกมันมา 3,000 ปีแล้ว ไดแอน เรโกนี กล่าวว่า สาเกมีประโยชน์มากกว่าข้าวขาวในเรื่องของเส้นใบอาหารที่มีมากกว่า นอกจากนี้ยังมีสารอาหารอื่นๆ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต วิตามินเอ แคลเซียม โปแทสเซียม เป็นต้น นอกจากจะมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราแล้ว ไม้สาเกใช้สร้างบ้านได้ นอกจากนั้นดอกก็สามารถไล่ยุงได้ด้วย ที่มา : VOA News
วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
หมากโก หรือ บักโก หรือ ตะโก
ชื่อท้องถิ่น: บักโก ตะโกนา (ภาคเหนือ) มะโก โก (ภาคอีสาน)
ชื่อสามัญ: ตะโกนา
ชื่อวิทยาศาสตร์: Diospyros Rhodcalyx
ชื่อวงศ์: Ebenaceae
ลักษณะวิสัย/ประเภท: ตะโกนา เป็นพืช ยืนต้นขนาดกลาง ใบเล็กขนาดใบข่อย
ผลของตะโกนามีลักษณะคล้ายกับผลมังคุดหรือลูกพลับ รสหวานอมฝาด
การใช้ประโยชน์/ส่วนที่นำไปใช้ประโยชน์: ใช้เป็นยา ผล เปลือกผล แก่น ผลเอามาตากแดด ต้มเอาน้ำดื่มเป็นยาแก้ท้องร่วง ท้องเสีย แก้อาการบวม ขับพยาธิ แก้กษัย แก้ฝีเน่า เปลือกของผลตะโกนา
วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)